หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
BLS
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
รีบาวด์แล้วย่อ   
          เมื่อวาน กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ บวกนำดัชนีฯขึ้น (ตามคาด) และดีกว่าคาดคือ กลุ่มแบงก์ กลับมาเขียวได้หลังจากโดนขาย (Sell on fact) หลังงบออกไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนหุ้นกดดัชนีฯ คือกลุ่ม โรงพยาบาล (วันนี้ ติดตาม มติ ครม.คุม ราคายา-เวชภัณฑ์)       
          วันนี้ คาดรีบาวด์แล้วย่อ กรอบ 1,595-1,580 จุด 
          ระยะสัปดาห์ คาดหุ้นไทยรีบาวด์ หลังจากพักฐานไปเมื่อสัปดาห์ก่อนและได้ยกฐานต่ำสูงขึ้น (Higher low) คาดดัชนีฯมีลุ้น กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน แถว 1,600 จุด อีกครั้ง ปัจจัยหนุนจะมาจาก 1) แรงซื้อหุ้นคืน (Cover short) โดยเฉพาะกลุ่ม สินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน ปิโตรฯ โรงกลั่น) 2) ราคาหุ้นหลายตัวลงมาสะท้อนงบ 4Q18 ที่ผิดหวัง ไปล่วงหน้า 3) การประกาศวันเลือกตั้งภายในสัปดาห์นี้ 3) การค้า จีน-สหรัฐฯ มีข่าวรอมชอมกันมากขึ้น                  
 
What to watch: 
          (+) คาดสัปดาห์นี้ จะประกาศ กม.เลือกตั้ง โดยหลังประกาศ กม.เลือกตั้ง กกต.จะแจ้งวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายใน 5 วันทำการ คาดวันเลือกตั้ง จะอยู่วันที่ 24 มีค. 
          (+/-) งบ 4Q18 ที่จะทยอยประกาศ 22 มค. BFIT/ 28 มค. DTAC / 30 มค. PTTEP SCC GLOW/ 31 มค.THCOM 
          (*) ประชุม ครม.ติดตาม มาตรการคุมราคายา-เวชภัณฑ์ 
          (*) BREXIT จะมีการลงประชามติแผนสำรองอีกครั้งในวันที่ 29 มค.นี้  
 
หุ้นแนะนำ 
          HANA คาดยอดขาย PCBA สำหรับ IPHONE ที่ลดลงไป และ Earnings downward revision สะท้อนไปในราคาหุ้นหมดแล้ว ขณะที่โอกาสในการเพิ่มยอดขาย PCBA สำหรับเครื่องใช้ไฟฟา โดยเฉพาะเครื่อง ฟอกอากาศ ที่กำลังขาดตลาดในประเทศ และความกดอากาศตามฤดูกาลส่งผลต่อค่า ฝุน PM2.5 และสารพิษในอากาศหลายประเทศในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น คาดหนุนคำสั่งซื้อ PCBA สำหรับแผงวงจรเครื่องฟอกอากาศเพิ่มขึ้นทดแทนยอดขาย Smart phone ที่ลดลงไป   
 
รายงานวันนี้ 
          
TU: Growth mode returns in 2019   
          เราคาดกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 1.45 พันล้านบาททรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 11% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ คาดกำไรหลักที่ 1.41 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% YoY แต่ลดลง 10% QoQ เรามองว่าจากอัตรากำไรธุรกิจทูน่าที่ยังแข็งแกร่งมาตั้งแต่ 2H18-2019 (ราคาต้นทุนอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล โดยการจับปลาทั้งง่ายและเยอะขึ้น), การปิดโรงงานแซลมอนที่ UK ซึ่งโดยปกติขาดทุนราว 5 ล้านเหรียญต่อปี (อาจจะมีต้นทุนการปรับโครงสร้างเข้ามาในระยะสั้น 1-3 ล้านเหรียญ), และ Red Lobster ที่คาดจะขาดทุนน้อยลงจากจำนวนคนใช้บริการที่มากขึ้น และกลยุทธ์ด้านการตลาด จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรในปี 2019 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท
 
SCB: Model trimmed--extra provision for pension fund  
          เรามองว่าธนาคารยังอยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจใน 1H19 ต่อเนื่องจากปีก่อนทำให้แนวโน้มต้นทุนการดำเนินการครึ่งปีแรกอาจไม่ลดลงมากนัก กับแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง นอกจากนี้แนวโน้ม NPL ยังอาจปรับตัวขึ้นทำให้การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญอาจเพิ่มจากปีก่อน และผู้บริหารชี้แจงว่าธนาคารจะตั้งค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับค่าเกษียณอายุพนักงานอีก 1.5 พันล้านบาทใน 1Q19 ตามกฎหมายใหม่ เราปรับกำไรลง และปรับราคาเป้าหมายลง 6% เป็น 180 บาท แนะนำ ถือ 
 
LPN: Building strength by diversifying 
          แผนธุรกิจปี 2019 เปาหมายยอดจองซื้อ 16.5พันล้านบาท เติบโต 6% YoY รายได้จากการขาย 12พันล้านบาท (เราคาดเติบโตประมาณ 6% YoY) บวกกับรายได้จากธุรกิจบริการอีกประมาณ 2พันล้านบาท ส่งผลรายได้รวมคาดเติบโตประมาณ 15-20% Backlog ปัจจุบันรองรับรายได้ปี 2019 แล้ว 67% บริษัทมีที่ดินสำหรับโครงการใหม่ปี 2019 ที่12 พันล้านบาท จากเปาหมาย 20 พันล้านบาท โดยเน้นแนวราบมากขึ้น สูงถึง 40% ของมูลค่าโครงการเปิดตัวใหม่ทั้งหมดในปี 2019 นี้ สำหรับ 4Q18 เราคาดกำไรที่ 539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82%YoY และ 84%QoQ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8 บาท และปันผล 6.3 % 
 
Flow Tracker: ต่างชาติซื้อหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา
          นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 285 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกลับจากการขายสุทธิ 45 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 1,618 ล้านเหรียญ ซึ่งต่อเนื่องจากยอดซื้อสุทธิ 1,716 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงซื้อในหุ้นเกือบทุกกลุ่ม ยกเว้นกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีและ ICT โดยดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มธนาคารและอสังหาฯฟนตัวต่อเนื่องจากระดับ Oversold  
 
Thailand's Exports and Imports (December): 2018 Outturns weaker than market expectations
          ตัวเลขส่งออกเดือน ธค. ลดลงต่อเนื่อง 1.7%YoY และตัวเลขทั้งปี 2018 อยู่ที่ 6.7% (ต่ำกว่าเปาหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ 8%) หลักๆเป็นผลจากตัวเลขการส่งออกไปจีนที่ลดลง สำหรับปี 2019 เราคาดการส่งออกจะชะลอตัวลงอีก เพราะภาพการค้าโลกที่ไม่ชัดเจน เราคาดจะโตเพียง 45%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 4.8% 
 
Thai Market Strategy: Commodities trade playbook
          สำหรับ Commodity plays เราเลือกหุ้นกลุ่มที่ได้ประโชน์จาก อุปสงค์ของสินค้าที่มากกว่าอุปทานที่จะออกมา 
          1. กลุ่มโรงกลั่น จากข้อมูลในอดีตเมื่อ GRM ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับปัจจุบันจะมีการฟนตัวใน 1-2 เดือน ซึ่งเรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อกลุ่มโรงกลั่นจากจุดต่ำสุดของ GRM ชอบ TOP ที่สุดในกลุ่ม 
          2. กลุ่มพลาสติก ตามปัจจัยด้านฤดูกาลที่ปกติ Q1-Q2 จะเป็น High season ชอบ IVL 
          3. กลุ่มเดินเรือ BDI ปรับตัวลดลงมาจาก Low season แต่คาดจะเริ่มเข้าสู่ High season หลังตรุษจีนลากยาวไปถึงสิ้นเดือน มี.ค. ชอบ PSL 
          4. กลุ่มเกษตร คาดภาวะเอลนีโน่จะลากยาวไปถึงเดือน เม.ย.-พ.ค. ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง ทำให้ผลผลิตปรับตัวลดลง เช่น น้ำตาล ชอบ KSL และในอดีตภาวะเอลนีโน่ทำให้ Farm income มีการปรับตัวขึ้น ชอบ GLOBAL, CPALL, M, OSP และ ROBINS 
          5. กลุ่มปศุสัตว์ ราคาหมูเริ่มฟนตัวตั้งแต่ 2Q18 และปกติจะปรับตัวขึ้น MoM ในช่วงครึ่งปีแรกยาวไปจนถึง เม.ย. ชอบ CPF   
 
หุ้นมีข่าว 
          (0/+) เมื่อวาน ก.พาณิชย์ รายงานตัวเลขส่งออกเดือน ธค. -1.72% y-y (ตลาดคาด -0.6%) ส่วนตัวเลขนำเข้า -8.15% ส่งผลให้ดุลการค้า ธ.ค. เกินดุล 1,064 ล้านเหรียญฯ 
          สรุปภาพรวมทั้งปี 61 การส่งออกขยายตัว 6.7% มีมูลค่า 252,486 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนนำเข้า ขยายตัว 12.51%  มีมูลค่า 249,231 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ดุลการค้าปี 61 เกินดุล 3,254 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ที่มา ก.พาณิชย์) 
          (*) ธนชาตรับผู้ถือหุ้นอยู่ระหว่างศึกษาแผนควบรวมกับทีเอ็มบี แต่ยังไม่มีข้อสรุป-กรอบเวลาที่ชัดเจน (ที่มา ผู้จัดการ) 
          (+) รับเหมา: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) ได้เห็นชอบโครงการรถไฟฟาสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟาขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเงินลงทุนรวม 2.35 แสนล้านบาท ภายใต้มาตรการโครงการ พีพีพี ฟาสต์ แทร็กซึ่งจะมีส่วนช่วยในการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพราะเชื่อมส่วนตะวันออกและตะวันตก (ที่มา เดลินิวส์) 
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
 
Trend Forecasting
 
SET Index ปิด 1588.38 (+0.29%)  มูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท 
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,575 แนวต้าน 1,590 / SET100 รับ 2310 ต้าน 2335 BSET100 รับ 10.02 ต้าน 10.14 / BMSCITH รับ 12.00 ต้าน 12.10 
 
Topic: Commodity prices are surging...
          สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาถั่วเหลือง ยางพารา ทองแดงและถ่านหินส่งสัญญาณฟื้นตัวตามราคาน้ำมัน
 
มุมมองตลาด: 
          ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ Soft commodities เช่น ราคาพืชผลทางการเกษตร เนื้อสัตว์ น้ำตาล ทองแดงและสังกะสี ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก คาดส่งผลบวกต่อหุ้นเชื่อมโยง เช่น TU ,CPF, KSL, STA และ PTTEP ภาพรวมดัชนีฯตลาดหุ้นไทยเริ่มฟนตัว ขณะที่หุ้นเกือบทั้งหมดที่อยู่ใน SET100 ปรับตัวต่ำลงและอยู่ในเขตขายมากเกินไป (oversold) ราคาหุ้นที่ปรับตัวดีขึ้นมีปัจจัยจากมูลค่าการซื้อขายที่น่าสนใจหลังราคาปรับตัวลงมามาก ขณะที่ความกังวลเรื่องสงครามการค้าลดระดับลงหลังจากสหรัฐเตรียมพิจารณาผ่อนคลายการเรียกเก็นภาษีนำเข้าจากจีน นอกจากนี้การเข้าสู่ฤดูการจ่ายเงินปันผลคาดหนุนให้ราคาหุ้นสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้เช่นเดียวกัน 
 
สรุป:
          ทิศทางตลาดมีโอกาสฟนตัวและยังมองเป็นจุดน่าสนใจในการเข้าซื้อ   
 
วิธีการเลือกหุ้น: 
          เราแนะนำหุ้นที่มีสัญญาณแข็งแกร่งมากกว่าตลาดโดยใช้ parameter หลักได้แก่ 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average 
 
Technical screen Bull Signal: 
          TOP, TU, STA 
 
Technical  screen Bear Signal:
          THANI, WORK, TKN 
 
Port หุ้นคงเหลือ: 
          SGP, AU, TU, AOT, CPF, BEC, TOA, ROBINS, BGC, CPALL (แนะนำถือต่อ) 
 
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
               This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. +662-618-1334 
 
Track with Technical 
 
          TOP 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 69.00 
          แนวต้าน 76.00-78.00 
          เหตุผล ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน (25-days EMA) หนุนด้วย RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งด้านราคา บ่งชี้การกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่ 
 
          TU 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 17.80 
          แนวต้าน 19.50 
          เหตุผล ปัจจุบันราคาทำจุดสูงสุดใหม่ ยืนยันด้วยสัญญาณบวก Bull MACD และโครงสร้างขาขึ้นระยะกลาง 
 
          STA 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 14.20 
          แนวต้าน 15.60/16.20 
          เหตุผล ส่งสัญญาณฟนตัวขึ้นจากแนวรับสำคัญ 14 บ. ขณะที่ Stochastic บ่งชี้สัญญาณกลับตัวระยะสั้น
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!