หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 3


ทริสเรทติ้ง ยกเลิก ‘เครดิตพินิจ’แนวโน้ม ‘Positive’’บ.นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (9)’

และเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วน เป็น ‘AAA(sf)’ จาก ‘AA-(sf)’

          ทริสเรทติ้ง ยกเลิก ‘เครดิตพินิจ’ แนวโน้ม ‘Positive’ หรือ ‘บวก’ ที่ให้ไว้แก่หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วนชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นอายุ 5 ปี (หุ้นกู้มีประกัน) ของ บริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (9) จำกัด (ผู้ออกตราสาร หรือเอสพีวี) พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันดังกล่าวเป็นระดับ ‘AAA(sf)’ จากเดิมที่ระดับ ‘AA-(sf)’ เพื่อให้สะท้อนสถานะเครดิตของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกัน (Guarantor) รายใหม่อีกด้วย

          การทบทวนอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกันในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการควบรวมผู้ค้ำประกันหุ้นกู้คือบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) เข้ากับ ธอส. ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. 2563 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2563 และมีการโอนสินทรัพย์และหนี้สินทั้งหมดของ บตท. ไปยัง ธอส. ในการนี้

ทริสเรทติ้งได้ทำการประเมินสถานะของ ธอส. จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วโดยอันดับเครดิตอยู่ที่ระดับ ‘AAA’ พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’

          หุ้นกู้มีประกันดังกล่าวได้รับการค้ำประกันบางส่วนแบบไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้โดย ธอส. ซึ่ง ธอส. จะให้การค้ำประกันในสัดส่วน 90% ของมูลค่าเงินต้นคงเหลือบวกดอกเบี้ยค้างชำระของหุ้นกู้มีประกันนี้ นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังมีปัจจัยสนับสนุนจากหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่เอสพีวีออกให้แก่ ธอส. รวมทั้งเงินกู้ยืมที่ ธอส. ให้แก่เอสพีวีเพื่อเสริมสภาพคล่อง และหน้าที่ของ ธอส. ในการซื้อกองลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย (กองสินทรัพย์) คงเหลือคืนจากเอสพีวี ณ วันครบกำหนด

ไถ่ถอนหุ้นกู้อีกด้วย

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะเครดิตของ ธอส.

          ธอส. มีสถานะเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี 2496 ภายใต้พระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ พ.ศ. 2496 ธนาคารมีผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียวคือกระทรวงการคลังและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

          ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือเป็นพิเศษอย่างทันท่วงทีและเพียงพอแก่ ธอส. ในยามที่ธนาคารมีความต้องการ ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ธอส. กับรัฐบาลที่อยู่ใน ‘ระดับสูงสุด’ และบทบาทของ ธอส.ในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่อยู่ในระดับ ‘สำคัญมากที่สุด’ ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้

ธอส. เป็นผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ

          เอสพีวี ได้ออกหุ้นกู้มูลค่ารวมทั้งสิ้น 8.22 พันล้านบาทซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วนชนิดทยอยชำระคืนเงินต้นจำนวน 6 พันล้านบาทและหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวน 2.22 พันล้านบาท โดยสัดส่วนมูลค่าของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคิดเป็น 27% ของมูลค่ารวมของหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิทั้งหมดที่ออกโดยเอสพีวี ในการนี้ เอสพีวีได้เสนอขายหุ้นกู้มีการค้ำประกันให้แก่นักลงทุน ในขณะที่หุ้นกู้ด้อยสิทธินั้นถือโดย บตท. ซึ่งปัจจุบันมี ธอส. เป็นผู้ถือแทน บตท. อนึ่ง หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวมีสถานะในสิทธิเรียกร้องที่ด้อยกว่าหุ้นกู้มีประกันที่ไดัรับการจัดอันดับเครดิตและเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้มีประกัน

          เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้นำไปใช้ซื้อสิทธิเรียกร้องค่างวดของกองสินทรัพย์ที่ บตท. ซื้อมาจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น ‘ผู้ขาย’ (Seller) โดยมูลค่าเงินต้นของกองสินทรัพย์ดังกล่าวอยู่ที่ 8.02 พันล้านบาท

          ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 มูลค่าคงเหลือของหุ้นกู้มีประกันอยู่ที่ 4.89 พันล้านบาทและมูลค่าของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงเหลืออยู่ที่ 294.29 ล้านบาทหรือคิดเป็น 5.68% ของมูลค่าหุ้นกู้รวมคงค้างทั้งหมด ซึ่งลดลงจาก 27% ของมูลค่าหุ้นกู้ทั้งหมดในช่วงเริ่มต้นโครงการ อย่างไรก็ตาม มูลค่าของหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะต้องคงไว้ไม่น้อยกว่า 10% ของมูลค่าที่ออกจนกระทั่งถึงวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน

เงินกู้ยืมจาก ธอส. ช่วยเสริมสภาพคล่อง

          ธอส. ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนเรียกเก็บหนี้ (Servicer) และผู้จัดหาสภาพคล่อง (Liquidity Provider) ให้แก่โครงการนี้อีกด้วย ทั้งนี้ ภายใต้สัญญาที่ ธอส. ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสพีวีนั้น ธอส. ตกลงจะให้เงินกู้ยืมแก่เอสพีวีตลอดอายุของหุ้นกู้ในกรณีที่เอสพีวีมีสภาพคล่องไม่เพียงพอจะชำระหนี้ในแต่ละงวดได้

          จะมีการนำเงินค่างวดจากลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้รับในแต่ละเดือนไปเข้าบัญชีของตัวแทนเรียกเก็บหนี้ก่อนแล้วหลังจากนั้นจะโอนเข้าบัญชีของเอสพีวีทุกเดือน ส่วนเงินค่าผ่อนชำระที่เป็นส่วนของเงินต้นนั้นจะนำไปใช้ชำระเงินต้นของหุ้นกู้มีการค้ำประกัน รวมทั้งใช้ชำระคืนเงินต้นของเงินที่กู้ยืมมาจากผู้จัดหาสภาพคล่องเพื่อใช้ชำระคืนหนี้เงินต้นของหุ้นกู้มีการค้ำประกัน (ถ้ามี) และนำไปจัดสรรเข้าบัญชีสำรองในสัดส่วน 10% ของเงินต้นสุทธิที่ได้รับหรือเงินที่เหลืออยู่ แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะต่ำกว่า

          ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้ชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือจัดสรรเข้าบัญชีสำรองทั้งหมดในกรณีที่มีการชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิในสัดส่วน 90% ของมูลค่ารวมของหุ้นกู้ด้อยสิทธิแล้ว ในส่วนของดอกเบี้ยงวดนั้นจะนำไปจ่ายชำระดอกเบี้ยรวมทั้งค่าบริการและค่าธรรมเนียมของหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิต โดย ธอส. จะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เอสพีวีในกรณีที่รายรับไม่เพียงพอสำหรับการจัดสรรเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้มีประกันดังกล่าว

          ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 จนถึงเดือนกันยายน 2563 เอสพีวีได้รับเงินค่าผ่อนชำระรายเดือนจากลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนทั้งสิ้น 4.46 พันล้านบาทซึ่งประกอบไปด้วยเงินต้นที่ได้รับชำระคืนตามกำหนดเวลาจำนวน 1.42 พันล้านบาท ค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยจำนวน 1.2 พันล้านบาท และเงินต้นที่ได้รับคืนก่อนกำหนดจำนวน 1.84 พันล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนเงินต้นที่ได้รับคืนก่อนกำหนดนั้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 22.9% ของมูลค่าเงินต้นเริ่มแรกซึ่งอยู่ที่จำนวน 8.02 พันล้านบาท ในขณะที่หนี้ที่มีการผิดนัดชำระสุทธิอยู่ที่ 382.1 ล้านบาทหรือ 4.76% ของมูลค่าเงินต้นเริ่มแรกของกองสินทรัพย์ โดยเงินค่าผ่อนชำระที่ได้รับจากผู้กู้นั้นมีเพียงพอที่จะรองรับเงินต้นและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้มีประกัน

เงื่อนไขการรับซื้อคืนกองสินทรัพย์ที่ยังคงเหลืออยู่จากเอสพีวีโดย ธอส. ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน

          ภายใต้สัญญาโอนสิทธิเรียกร้องนั้น ธอส. มีหน้าที่ซื้อคืนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวจากเอสพีวีในวันครบกำหนดไถ่ถอนโดยราคาซื้อคืนสิทธิเรียกร้องจะเป็นราคาที่เทียบเท่ากับ (1) มูลค่าทางบัญชีคงเหลือของสินทรัพย์รวมดอกเบี้ยค้างชำระ หรือ (2) มูลค่าเงินต้นคงเหลือบวกดอกเบี้ยค้างชำระของหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิซึ่งรวมภาระผูกพันต่างๆ ของเอสพีวีหลังจากหักด้วยเงินสดคงเหลือในบัญชีสำรองของเอสพีวีแล้ว ซึ่งแล้วแต่ว่าราคาใดจะต่ำกว่า

          โดยเอสพีวี จะนำเงินที่ได้จากการขายคืนสิทธิเรียกร้องให้แก่ ธอส. ไปใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ซึ่งหากยังมีส่วนที่ขาดอยู่ ธอส. ก็จะรับชำระให้ตามสัญญาค้ำประกัน โดยวงเงินค้ำประกันจะอยู่ในสัดส่วนไม่เกิน 90% ของยอดคงค้างของหุ้นกู้มีประกันคงเหลือบวกกับดอกเบี้ย ณ วันสิ้นงวด ทั้งนี้ เงินที่ได้รับจากการขายคืนกองสินทรัพย์ให้แก่ ธอส. ประกอบกับเงินค้ำประกันนั้นน่าจะเพียงพอที่จะใช้ชำระคืนผู้ถือหุ้นกู้มีประกันได้อย่างครบถ้วน

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

          หุ้นกู้มีประกันภายใต้โครงการนี้จะมีการทยอยชำระคืนเงินต้นตลอดอายุหุ้นกู้ประมาณ 25% ดังนั้น การที่เอสพีวีจะชำระคืนเงินต้นทั้งหมดในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ได้นั้นจึงขึ้นอยู่กับความสามารถของ ธอส. ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันในการที่จะซื้อคืนสิทธิเรียกร้องคงเหลือทั้งหมดกลับไป นอกจากนี้ หากยังมีส่วนที่ขาดอยู่ ธอส. ก็จะรับชำระให้ตามสัญญาค้ำประกัน โดยวงเงินค้ำประกันทั้งสิ้นจะมีอัตราไม่เกิน 90% ของยอดคงค้างของหุ้นกู้มีประกันและดอกเบี้ย ณ วันสิ้นงวด ทั้งนี้ เนื่องจาก ธอส. มีบทบาทที่สำคัญหลายด้านในโครงการนี้ ดังนั้น อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันนี้จึงขึ้นอยู่กับอันดับเครดิตของ ธอส. เป็นหลัก กล่าวคือ อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันจะเปลี่ยนแปลงไปตามอันดับเครดิตองค์กรของ ธอส. ที่เปลี่ยนไป

หมายเหตุ

          ผู้ออกตราสารได้แจ้งให้ทริสเรทติ้งทราบว่าผู้ออกตราสารได้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ให้สาธารณชนรับทราบแล้ว ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ประเภท Securitization, 31 พฤษภาคม 2553

 

บริษัท นิติบุคคลเฉพาะกิจ บตท. (9) จำกัด (SPV-SMC (9))

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

MBSF21NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกันบางส่วนชนิดทยอยชำระคืนเงินต้น 4,859.17 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564

AAA(sf)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com 

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

          © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง

          ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!